top of page
Lapine 2.png

BY Psi Drakaz

Old Friend

Chapter 2 : Old Friend

by Psi Drakaz

Lapine’s Story

กระต่ายน้อยตื่นขึ้นมาพร้อมกับพบว่าตัวเองอยู่บนสถานที่แห่งหนึ่ง

มันเป็นเหมือนป่าเวทมนตร์ที่เต็มไปด้วยคริสตัล ซึ่งนั่นทำให้เหมือนกับว่า

ทั้งบริเวณดูเหมือนจะเป็นสีชมพู จากแสงที่สะท้อนมาจากคริสตัล

เธอพบกับเหล่าแฟรี่ ที่พยายามพาเธอไปดูอะไรบางอย่าง

ลาพิเน่ลุกขึ้นด้วยความเจ็บปวด ดูเหมือนว่าเหตุการณ์บางอย่างก่อนหน้านี้

ทำให้เธอกระแทกกับพื้นอย่างแรง และต้องโซเซเดินไปจุดที่แฟรี่นำเธอไป

 

ทุกสิ่งทุกอย่างค่อนข้างแปลก มันไม่มีสถานที่ที่จะดูเหมือนบ้าน หรือสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เลย

แฟรี่ที่เธอพบก็ไม่เหมือนกับที่เคยพบและเป็นเพื่อน ๆ ของเธอ อีกทั้งยังพูดไม่ได้ด้วย

สิ่งที่แฟรี่ชี้และนำทางเธอมา นั่นคือล็อกเก็ตของเธอนั่นเอง

เธอพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น ว่าเธอไขกุญแจ แล้วเกิดการระเบิด

ลูเซเน่พี่สาวของเธอถูกแรงระเบิดกระเด็นไปที่อื่น และนั่นน่าจะเกิดขึ้นกับเธอเช่นกัน

เธอพยายามตะโกนหาพี่สาวฝาแฝดของเธอ แต่ก็ดูเหมือนว่าไม่มีวี่แววใดใดเลย

 

ลาพิเน่หยิบล็อกเก็ตขึ้นมาและพยายามจะเปิดมัน แต่ดูเหมือนว่ากลไกบางอย่าง

ทำให้มันไม่สามารถเปิดออกได้ เธอเริ่มรู้สึกกังวลมากขึ้น เมื่อพยายามเดินไปสำรวจที่ต่าง ๆ

แต่ก็ไม่พบกับใครเลย ไม่มีอะไรอยู่ที่นี่ นอกจากแฟรี่ที่หน้าตาแปลกไป พูดไม่ได้

ต้นไม้ที่มีคริสตัลเกาะอยู่เต็มไปหมด รวมไปถึง คริสตัล คริสตัล และคริสตัลในทุกที่

 

เธอพยายามแบกร่างที่เหนื่อยล้า และบอบช้ำ เดินจนพ้นเขตป่า ดินร่วน ๆ สีเทา

ที่สะท้อนกับแสงดวงอาทิตย์จากด้านบน ช่างดูคล้ายกับดวงจันทร์ที่เธอเคยอยู่

ที่นี่คือที่ไหนกันแน่

 

แฟรี่นำบางอย่างมาให้เธอ มันคือก้อนกลม ๆ สีขาว ที่ดูเหมือนขนมปังที่เธอรู้จัก

พวกเขาพยายามจะสื่อสาร และทำท่ากิน ให้ลาพิเน่ดู เพื่อจะบอกว่าสิ่งนี้กินได้ 

แม้ว่าจะไม่ไว้ใจนัก แต่เธอก็ลองหยิบมันขึ้นมาดม ก่อนที่จะกินมัน

ก้อนสีขาวนี้เหมือนกับแป้งหอม ๆ หนึบ ๆ ที่เธอเคยกิน กลิ่นของมันหอมมากเมื่อถูกกัด

และเพียงชิ้นเดียว ลาพิเน่ก็รู้สึกอิ่มทันที 

 

เธอลองร่ายคาถาง่าย ๆ สองสามบทที่พอจะนึกออก แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นผล

เธอจึงเดินกลับมาที่ป่าเวทมนตร์ และลองร่ายคาถาใหม่

และก็ได้พบว่า ๆ คาถาของเธอก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าที่คิดไว้

นั่นแปลว่า เธอจะต้องอยู่ในบริเวณป่าแห่งนี้ เพื่อใช้เวทมนตร์ทำในสิ่งที่คิดว่าน่าจะทำได้ก่อน

 

เธอเริ่มใช้เวทมนตร์ ตามหาพี่สาวของเธอ แต่ก็ไม่เป็นผล

แฟรี่ที่ดูเหมือนจะเริ่มสื่อสารกับเธอได้เข้าใจง่ายขึ้นด้วยท่าทางต่าง ๆ

พวกเขาพยายามอธิบายว่า ลาพิเน่เป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ที่นี่

และพวกเขาไม่เคยเห็นพี่สาวของเธอเลย

 

เธอสร้างที่พักเล็ก ๆ ขึ้นมาจากคริสตัลที่มีอยู่มากมายในป่า

และพยายามสร้างเครื่องมือที่จะสามารถสื่อสารกับลูเซเน่ให้ได้

แต่ดูเหมือนว่า มันจะไม่เป็นผล ไม่มีการติดต่อกลับ หรือสัญญาณใดใดของพี่สาวเธอเลย

 

เธอจมอยู่กับความรู้สึกผิด ความเหงา รวมทั้งความเศร้าที่ก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ

เพราะเธอเป็นคนนำกุญแจไปไขเครื่องนั่น ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้

ดูเหมือนว่า ตอนนี้ เธอจะต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังแล้ว

 

เหล่าแฟรี่พยายามมาปลอบใจเธอ และให้เธอลองสร้างสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น

พวกเขาฉลาดมาก แม้จะไม่เก่งด้านเวทมนตร์เหมือนเพื่อนเก่า ๆ ของเธอ

แต่ก็สามารถช่วยสร้างหรือประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ ที่เธอสอนได้ 

 

ในทุก ๆ วันเธอจะหาวิธีติดต่อและตามหาครอบครัวของเธออย่างมีความหวัง

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแล้ว เธอยังคงตามหาและออกสำรวจดาวดวงนี้ต่อไป

 

ในวันหนึ่ง ขณะที่เธอพยายามใช้พาหนะมีล้อที่เธอสร้างเอง ออกสำรวจไกลออกไปมากขึ้น

เธอพบกับสิ่งก่อสร้างบางอย่างฝังอยู่กับต้นไม้คริสตัล เธอเข้าไปดูใกล้ ๆ

และพบว่ามันคล้ายกับบ้านต้นไม้ที่เธอเคยอยู่ เพียงแต่ว่ามันดูเก่า

และเป็นแบบแปลนที่โบราณมากแล้ว

 

บ้านหลังนี้ถูกรวมเข้ากับต้นไม้คริสตัลไปเกือบทั้งหมดแล้ว แต่ลาพิเน่ก็ยังคงสงสัย

ว่าทำไมมีบ้านแบบนี้อยู่ที่นี่ เธอพยายามแหวกกิ่งไม้และปีนเข้าหน้าต่างของบ้านไป

เพราะนั่นดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงห้องเดียวที่ยังไม่ถูกรวมกับต้นไม้ 

 

ลาพิเน่สวมหน้ากากและใช้แท่งไฟของเธอส่องไปดูตามที่ต่าง ๆ

ภายในห้องนั้นแคบและเล็กมาก แต่สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจกว่าเดิมนั่นคือ

ข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน มันไม่ต่างอะไรกับดวงจันทร์ที่เธออยู่

มันเพียงแค่เก่าและใช้การไม่ได้แล้วเท่านั้น

 

เธอเก็บของใช้บางส่วนไว้ในกระเป๋าก่อนที่จะปีนออกมา

และออกสำรวจให้ลึกเข้าไปในพื้นที่นี้มากกว่าเดิม

ทำให้เธอได้พบซากบางอย่างที่ยังเหลือรอดจากการถูกต้นไม้คริสตัลกลืนกิน

 

เธอรีบกลับมาที่บ้านพัก ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะอัปเกรด

ให้กลายเป็นห้องประดิษฐ์สุดล้ำยุคไปแล้ว เธอนำสิ่งของที่เธอเก็บมา

และพยายามใช้สิ่งประดิษฐ์ที่เธอภาคภูมิใจเพียงหนึ่งเดียวที่ยังคงหลงเหลือกับเธอ 

“บอลทองเหลือง” สุดท้ายเธอได้พบว่าระยะเวลาที่บอลใช้นั้นนานมาก

เพราะเนื่องจากว่า สิ่งของเหล่านี้นั้นได้รับเวทมนตร์ หรือถูกเปลี่ยนแปลงมาเป็นเวลานานมากแล้ว

แม้จะไม่สำเร็จ แต่อย่างน้อยก็ทำให้เธอรู้ว่า สิ่งนี้เก่าแก่มาก ๆ

และยังมีอะไรที่เธอไม่รู้เกี่ยวกับที่นี่เต็มไปหมด

 

วันหนึ่ง ขณะที่เธอกำลังพยายาม นึกหาวิธีการใหม่ ๆ ในการตามหาครอบครัวของเธออยู่นั้น

แฟรี่ได้บินมาหาเธอพร้อมกับชี้ไปที่ล็อกเก็ต เธอหยิบล็อกเก็ตขึ้นมาถือไว้ในมือ

และพบว่ามันกำลังสั่นเบา ๆ อยู่ แฟรี่พยายามช่วยเธอเปิดออก แต่ก็ไม่สำเร็จ 

 

ทันใดนั้น ความรู้สึกบางอย่างก็เกิดขึ้น เหตุการณ์ที่คุ้นเคย ลมพัดและการสั่นไหวอย่างรุนแรง

กระเป๋าที่ดูคุ้นตาวางอยู่ตรงหน้าเธอ ก่อนที่จะเปิดออก

 

เด็กผู้ชายชุดสีดำเหลือบทอง เดินออกมา

ลาพิเน่เพิ่งสังเกตว่าเด็กคนนั้นมีเขาเล็ก ๆ และมีตาสองสี

“สวัสดีเพื่อนเก่า ...” เด็กชายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบจนเหมือนกับว่ากำลังท่องบทอยู่

“เธอคือคนที่มากับคุณลุงของฉันใช่ไหม ? เขาเป็นอย่างไรบ้าง ? แล้วใครเป็นเพื่อนนาย ?

 ลาพิเน่ถามถึงลุงของเธอทันที

“อ๋อ ลุงขี้ขโมยคนนั้นน่ะเหรอ หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้”

เด็กชายพูดขึ้นด้วยบทพูดที่ดูเหมือนท่องจำอีกครั้ง

“ลุงของฉันไม่ใช่ขโมยนะ แล้วนายต้องการอะไร ตอนนี้ฉันกำลังมีเรื่องต้องทำอีกมากมายเลยนะ” 

ลาพิเน่เริ่มหัวเสียจากท่าทาง การกล่าวหาคุณลุงของเด็กชายปริศนา

“เอ่อ .. ฉันมาตรวจสอบความเรียบร้อยน่ะ ว่าแต่ … เธอก็ดูปรับตัวกับที่นี่ได้ดีนะ

เหมือนพี่สาวเธอนั่นแหละ” เขาพูดพร้อมกับมองไปรอบ ๆ เห็นบ้านล้ำยุคของลาพิเน่

และแฟรี่ที่ช่วยเธอทำงานอย่างขยันขันแข็ง

“พี่สาวของฉัน​ ? ลูเซเน่เหรอ !!? เธอยังอยู่ดีใช่ไหม !!?” ลาพิเน่รีบถามด้วยความดีใจ

เมื่อได้ยินว่าพี่สาวของเธอยังมีชีวิตอยู่ 

“อ๋าาาา ฉันไม่น่าพูดแบบนั้นเล้ยยย” เด็กชายทุบหัวตัวเองหนึ่งครั้ง ก่อนที่จะเปิดกระเป๋า

“เธอพาฉันไปเจอพี่สาวได้ใช่ไหม ? พาฉันไปด้วยคนสิ แบบที่เคยพาคุณลุงฉันไป”

ลาพิเน่คะยั้นคะยอเด็กชายผู้กำลังทำหน้าเบื่อหน่ายชีวิต 

 

“ไม่ได้หรอก เธอทำเองสิ ที่จริง ถ้าตามเส้นเวลาปกติ

ฉันไม่ควรจะพูดกับเธอเกินสองประโยคด้วยซ้ำนี่นา”

เขาบ่นพึมพำพร้อมกับหยิบสมุดขึ้นมาจดบันทึกบางอย่างลงไป

ดูเหมือนว่าการมาในครั้งนี้ ทำให้เขาได้รับรู้อะไรเพิ่มเติม ก่อนที่จะเดินกลับลงไปในกระเป๋า

 

แรงสั่นสะเทือนและลมพายุเกิดขึ้นอีกครั้ง  เขาหายไปพร้อมกับผงสีรุ้ง

ลาพิเน่ตั้งสติและรีบคว้าผงสีรุ้งที่กำลังปลิวหายไปบนท้องฟ้า เก็บใส่ขวดไว้

และให้เหล่าแฟรี่ของเธอช่วยกันรวบรวม ผงนั้นมาเก็บไว้อีกด้วย 

เธอสังเกตผงสีรุ้งนี้ตั้งแต่ครั้งที่คุณลุงกลับมาหาเธอ ทำให้เธอสัณนิษฐานว่า

มันจะต้องเกี่ยวข้องกับการเดินทาง หรือการทำงานบางอย่างของกระเป๋านั่นแน่ ๆ 

 

แต่มันคืออะไร ?

คุณลุงหายไปไหน ?

และเด็กผู้ชายคนนั้นเป็นใครกันแน่​ ?

 

ลาพิเน่ตาเป็นประกายด้วยความหวัง และความอยากรู้

เธอหันไปมองกับแฟรี่ ที่มองเธอกลับมา

 

ด้วยสีหน้า

งุนงงสุด ๆ

 

LOCKED
(                        75,000 SUBS)

  • YouTube

LOCKED
(                        100,000 SUBS)

  • YouTube
bottom of page